โฮมออฟฟิศ
แปลงบ้านตัวอย่าง
พามาดูโฮมออฟฟิศในโครงการ เดย์ส รามอินทรา-วัชรพล หลังนี้จะเป็นบ้านตัวอย่างในโครงการค่ะ จัดฟังก์ชันออกมารองรับธุรกิจได้ทุกรูปแบบ รองรับพนักงานได้ตั้งแต่ 15 – 30 คน

จากแปลนเราจะเห็นว่าชั้น 1 สามารถจอดรถได้สูงสุด ถึง 6 คัน โดยเค้าเลือกวางตำแหน่งเลือกวางพื้นที่บันไดห้องน้ำและลิฟต์ไว้ฝั่งด้านข้างตรงกันทุกชั้น ทำให้ในแต่ละชั้นได้สเปซการใช้งานที่ดูโปร่งโล่ง ในส่วนของชั้น 2 และ 3 จะเป็นพื้นที่สำนักงาน ที่สามารถจัดวางฟังก์ชันได้อย่างอิสระ
สุดท้ายชั้น 4 จะเป็นในส่วนของเจ้าของ จักทำเป็นพื้นที่โซนอยู่อาศัย จัดวางฟังก์ชันได้ครบ ทั้ง Living Dining และ ห้องนอนมาพร้อมพื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet ขนาดใหญ่

ที่นี่ออกแบบเป็นโฮมออฟฟิศหน้ากว้าง 6.6 เมตร จอดรถสูงสุดได้ 6 คัน ดีไซน์ด้านหน้าเรียบ เท่ ด้วยโทนสีขาวสะอาดตา ดูเรียบร้อย คลีน ๆ เข้าได้กับอิมเมจของทุกธุรกิจ

พื้นที่ชั้น 1 รองรับการจอดรถได้ทั้งหมด 6 คัน สำหรับธุรกิจไหนที่ต้องการหน้าร้านโชว์สินค้า โครงการก็ดัดแปลงเป็นส่วน Show roomไว้ให้ดูเป็นไอเดีย

จะเว้นระยะเหลือเป็นที่จอดรถลูกค้าสัก 2 คัน หรือจะวางเป็นมุมรับลูกค้าแบบนี้ก็ปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระเลยค่ะ

อย่างที่เกริ่นไปว่าธุรกิจที่ต้องการหน้าร้าน ถ้าต่อเติมแบบนี้ก็สามารถจัดฟังก์ชันได้ครบทีเดียวค่ะ

อย่างฝั่งด้านหน้าเราก็ติดตั้ง Shelf โชว์สินค้าของเราได้ ตรงกลางจะวางเป็นเก้าอี้สำหรับลูกค้า หรือจะทำเป็น Island สำหรับสินค้าตัว Tester ได้

ด้านหลังก็เหลือพื้นที่กว้างวางเป็นโต๊ะทำงานทรงสูงแบบนี้ได้ หรือจะทำเป็นมุมแคชเชียร์ก็ทำได้อย่างลงตัว

ส่วนด้านข้างบ้านจะเป็นลิฟต์และห้องน้ำแบบ Powder Room ค่ะ

ประตูทางเข้าหลักจะอยู่ด้านข้างบ้านค่ะ ประตูเค้าติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ใช้ได้ทั้งคีย์การ์ด กดรหัส และแบบกุญแจ

ส่วนนี้จะเชื่อมโซนออฟฟิศชั้นบนได้ ถ้าทำเป็นหน้าร้านชั้นล่างแบบนี้ก็สะดวกดีค่ะ แยกกับพื้นที่โซนรับลูกค้าไปเลยไม่รบกวนกัน

ขึ้นมาก็จะเจอลิฟต์แบบนี้ ถ้าเป็นบ้านเปล่าส่วนนี้โครงการจะทำเป็นปล่องลิฟต์มาให้เลย พร้อมเดินงานระบบไฟมาให้เรียบร้อย

ซึ่งข้อดีที่เค้าพื้นที่บันไดไว้ด้านข้าง ทำให้สเปซตรงนี้ได้พื้นที่แบบเปิดโล่ง จัดฟังก์ชันได้ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ง่ายตามแต่ลักษณะธุรกิจ

ฝั่งนึงจะกั้นเป็นห้องทำงานแบบส่วนตัว สำหรับหัวหน้างานหรือผู้บริหาร

ภายในวางโต๊ะเดี่ยว รองรับผู้มาติดต่อได้ประมาณ 2 คน ด้านหลังเหลือพื้นที่ทำเป็น Built-in ชั้นเก็บของได้


ส่วนด้านในก็จัดเป็นพื้นที่คุยงาน รับบรีฟกับลูกค้าได้ จุดนี้วางโต๊ะยาวขนาด 6 ที่นั่งแบบนี้ก็ยังเหลือพื้นที่เดินได้สบาย

โซนนี้ก็รับแสงธรรมชาติได้ดีทั้งจากฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้านเลย พื้นที่ด้านข้างเหลือ จะทำเป็น Built-in ชั้นวางของ หรือทำเป็นชั้นเก็บเอกสารก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ


ด้านข้างก็จัดเป็นเคาน์เตอร์สำหรับต้อนรับลูกค้าได้

ด้านหลังวางเป็นโซฟานั่งเล่นเข้ามุมแบบนี้ได้

ชั้นนี้เป็นห้องน้ำแบบ Powder Room มีสุขภัณฑ์ครบทั้ง อ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ มาพร้อมบานหน้าต่างเปิดระบายอากาศได้

โถงบันไดวางอยู่ตำแหน่งเดียวกันทุกชั้น


โดยขึ้นมาก็จะเจอลิฟต์แบบชั้นที่แล้วเลยค่ะ

สำหรับชั้น 3 ก็มีพื้นที่เท่ากับชั้นที่แล้ว ด้วยความที่เป็นสเปซโปร่ง โล่ง ทำให้เราสามารถจัดวางฟังก์ชันได้อย่างยืดหยุ่น สำหรับความสูงฝ้าเพดานของชั้น 2 และ 3 อยู่ที่ 2.6 เมตร

ชั้นนี้ออกแบบเป็นพื้นที่ทำงานที่ตอบโจทย์การทำงานของคนรุ่นใหม่สุด ๆ วางโต๊ะยาวขนาดใหญ่แบบนี้ ก็รองรับได้ประมาณ 10 ที่นั่ง เหมาะกับองค์กรที่ต้องทำงานร่วมกัน คุยอัปเดตงานกันเรื่อย ๆ


พื้นที่ด้านข้างก็ยังเหลือสเปซเยอะมากสามารถทำชั้นวางของขนาดใหญ่มาวางได้เลย

ฝั่งหน้าบ้านเป็นกระจก Full Height รับแสงธรรมชาติได้ดีสุด ๆ

วางตำแหน่งของห้องน้ำไว้ตรงกับชั้นที่แล้วเลยค่ะ เป็นห้องน้ำแบบ Powder Room ให้สุขภัณฑ์มาครบ

เดี๋ยวเราไปต่อกันที่ชั้น 4 ค่ะ

สเปซตรงนี้จริง ๆ จะเป็นผนังทึบค่ะ โครงการทุบให้ดูเป็นไอเดีย เพิ่มช่องแสงธรรมชาติให้พื้นที่บันได

ชั้น 4 ก็จะเป็นโซนพักอาศัย ขึ้นมาก็จะเจอลิฟต์และด้านข้างก็เค้าทำเป็น Built-in ตู้วางรองเท้ามาให้ดูเป็นไอเดีย

ชั้นนี้ตัวพื้นเค้าจะเป็นเป็น SPC ลายไม้มาให้ ดูอบอุ่นเหมาะกับการพักผ่อน สเปซชั้นนี้กว้าง โล่ง จัดวางฟังก์ชันได้ครบ ได้ฟีลเหมือนอยู่ห้อง Penthouse เลย

จริง ๆ ชั้นนี้เราสามาถจัดฟังก์ชันได้ครบเลยค่ะ อย่างโซน Living ก็วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง และวางโซฟาเดี่ยวด้านข้างอีกหนึ่งตัวแบบนี้ ก็ยังเหลือพื้นที่เดินได้สบาย

จุดนี้มีระยะถอยเยอะพอสมควร สามารถติดตั้งทีวีจอใหญ่ได้เลย

วางตำแหน่งโซนครัวไว้ฝั่งหลังบ้าน รับแสงธรรมชาติได้ดีจากหน้าต่างหลังบ้าน

จุดนี้วางโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่งได้ ด้านข้างก็เหลือพื้นที่ทำเป็นเคาน์เตอร์ครัว ทำอาหารได้พอกรุบกริบ


ถัดมาเป็นห้องนอน สำหรับใครที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัว ก็สามารถนำฉากกั้นมาติดกั้นกับพื้นที่โซนนั่งเล่นได้


ส่วนนี้รับแสงธรรมชาติได้จากระจกฝั่งหน้าบ้านแบบเต็ม ๆ ห้องนี้วางเตียง King Size ได้ มีพื้นที่วางโต๊ะข้างเตียงได้อีก 2 ตัว ก็ยังมีพื้นที่เดินได้เหลือ ๆ

มุมปลายเตียงกั้นเป็นพื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet แบบนี้ได้ค่ะ


ส่วนนี้เค้าทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมกับพื้นที่โถงบันได สำหรับคนที่ชอบความหวาดเสียวก็เก็บไว้เป็นไอเดียได้ค่ะ ส่วนด้านข้างก็วางโต๊ะเครื่องแป้งเข้ามุมได้

ด้านข้างเค้าทำเป็นมุม Built-in ตู้เสื้อผ้าเข้ามุมแบบนี้ เก็บเสื้อผ้าได้พอสมควรเลย

ห้องน้ำก็ให้สุขภัณฑ์มาครบเช่นเคย มีสเต็ปแยกโซน-แห้งเปียก มาพร้อมบานหน้าต่างระบายอากาศช่วยให้อากาศถ่ายเท

